บทความ

4 สูตรทำหน้าใสได้ด้วยตัวเอง

รูปภาพ
ผู้หญิงทุกคนใครอยากมีหน้าใส   วันนี้มี 4 สูตรหน้าใสมาฝากเป็นเกร็ดความรู้และเคล็ดลับให้ลองทำ 1. สูตรเพิ่มความสดชื่นเปล่งปลั่งให้กับผิวหน้า ให้ท่านล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นจนสะอาด จากนั้นนำแอปเปิ้ลที่ยังไม่ปลอกเปลือกครึ่งผลมาปั่นพอละเอียด แล้วนำมาพอกหน้าเว้นเปลือกตา ทิ้งไว้ประมาณ 25 นาที แล้วล้างออก 2. สูตรลดริ้วรอย ทำให้หน้านวลใส ให้นำแอปเปิ้ลครึ่งผลมาปั่นพอละเอียด จากนั้นก็มะนาวมาคั้นเอาแต่น้ำประมาณ 1 ช้อนชาใส่ลงไป แล้วผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำมาพอกให้ทั่วหน้า เว้นบริเวณรอบดวงตาไว้ ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออก 3. สูตรหน้าเด้ง ไม่หยาบกร้าน นำโยเกิร์ต 3 ช้อนโต๊ะมาผสมกับมะเขือเทศลูกเล็ก ๆ ประมาณ 3 ลูก ปั่นโยเกิร์ตกับมะเขือเทศพอละเอียด แล้วนำมาพอกหน้าให้ทั่ว โดยเว้นรอบดวงตา ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออก 4. สูตรขัดหน้าขาว และลดริ้วรอยหมองคล้ำ นำโยเกิร์ต 1 ถ้วย แล้วผสมกับเกลือป่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะผสมให้เข้ากัน นำมาพอกให้ทั่วใบหน้า แล้วขัด ๆ ถู ๆ ให้ทั่ว ขัด 5 นาที ทิ้งไว้อีก 5 นาที แล้วล้างออก ทำเดือนละครั้งกำลังดี คล้ายๆ กับการสครับหน้านั้นเอง เพียงแค่ 4 สูตรง่ายคุณก็มีผิวหน้า...

8 วิธีทำหน้าใส ได้อย่างใจคิด

รูปภาพ
เคล็ดลับหน้าใส ใครๆก็ต้องการทรายกันทั้งนั้น จริงมั้ยคะ? วันนี้โบว์มี 8 เคล็ดลับวิธีทำหน้าใสได้อย่างใจคิดมาฝากกันค่ะ ข้อแรกนะคะ ถ้าเป็นคนที่ชอบแต่งหน้า เราก็ควรที่จะรู้จักวิธีเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าของเราอย่างถูกวิธี เพื่อผิวหน้าของเราจะได้สะอาด หน้าใสไร้สิวนะจ๊ะ 2. ล้างหน้าให้สะอาดและถูกวิธี เพื่อผิวสวยหน้าใส โดยเลือกสบู่ล้างหน้าให้เหมาะกับผิวของตนเองนะคะ อย่างเช่น ถ้าเป็นคนผิวมัน ก็ควรเลือกใช้สบู่แบบออยล์คอนโทรล เป็นต้นค่ะ และไม่ควรหน้าล้างเกินวันละ 2 ครั้ง เพราะจะทำให้ผิวหน้าขาดความชุ่มชื้นได้นะคะ 3. ก่อนล้างหน้าควรล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นเพื่อเป็นการเปิดรูขุมขน หลังจากนั้นใช้สบู่ล้างหน้าและล้างฟองออกด้วยน้ำเย็น เพื่อปิดรูขุมขนค่ะ ซับหน้าด้วยผ้าขนหนูเบาๆและใช้สำลีชุบโทนเนอร์เช็ดหน้าอีกครั้งค่ะ เพื่อกระชับรูขุมขน 4. หลังจากล้างหน้าทุกครั้ง ควรทาครีมบำรุงผิว เพื่อทดแทนความชุ่มชื่นที่เสียไปจากการล้างหน้า เพื่อป้องกันริ้วรอยและรอยหมองคล้ำต่างๆก่อนวัยอันควรจ๊ะ 5. หาเวลาว่าง พอกหน้าและขัดหน้าสัปดาห์ละ1ครั้งนะค่ะ เพื่อเป็นการทำความสะอาดผิวหน้าที่ลึกซึ้งมากกว่าการล้างหน้าตามปกติ บำรุง...

ครบเครื่องเรื่องครีมกันแดด

รูปภาพ
ประโยชน์ของครีมกันแดด      ช่วยปกป้องการทำลายเซลล์ผิวหนัง จากรังสีอุลตร้าไวโอเลตในแสงแดด ซึ่งเป็นต้นเหตุของมะเร็งผิวหนัง และยังทำให้เกิดการสร้างเม็ดสีใต้ผิวหนัง ในคนเอเชียโอกาสที่จะเกิดมะเร็วผิวหนังมีไม่มากนัก ดังนั้นการใช้ ครีมกันแดด จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกัน การเกิดจุดด่างดำบนผิวหนังมากกว่า ประเภทของครีมกันแดด      ครีมกันแดด มีทั้งหมด 3 ประเภท ดังนี้คือ 1. Chemical Sunscreen      เป็น ครีมกันแดด ที่มีส่วนผสมของสารเคมี ทำหน้าที่ปกป้องแสงแดด โดยการดูดซับรังสีแสงแดดเข้าไว้ในผิว ซึ่งหลังจากโดนแดดสักพัก สารเคมีเหล่านี้ก็เสื่อมสภาพ นั่นคือสาเหตุที่เราจึงต้องทา ครีมกันแดด ทุกๆ 2-3 ชั่วโมง การเลือกใช้ ครีมกันแดด ที่มีค่า SPF สูงๆ ซึ่งมีส่วนผสมของสารเคมีปริมาณมาก อาจเกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังโดยเฉพาะคนที่มีผิวแพ้ง่าย 2. Physical Sunscreen      เป็น ครีมกันแดด ที่มีส่วนผสมของสาร ที่สามารถสะท้อนรังสี UVA และ UVB ออกไปจากผิวหนัง ซึ่งสารในกลุ่มนี้จะมีผลระคายเคืองต่อผิวหนัง น้อยกว่าสารในกลุ่มแรก แต่มีข้อด้อยคือ ครีมกันแดด...

วิธีเลือกซื้อครีมกันแดด

วิธีเลือกซื้อครีมกันแดด      ใน แสงแดดมีรังสีอยู่หลายชนิดนะครับ ที่รู้จักกันดีก็คือ อุลตราไวโอเลต (UV) ซึ่งรังสีนี้จะถูกดูดซับโดยชั้นโอโซน มีแค่ UVAและ UVB ที่ลงมาถึงพื้นโลก ซึ่งรังสีทั้ง 2 ชนิดนี้มีผลต่อผิวหนังโดยเฉพาะ UVA มีผลทำให้เกิด กระ ฝ้า เหี่ยว แก่ก่อนวัย UVB มีผลทำให้เกิดการ แดง แสบ ไหม้ ของผิวหนัง และรังสีทั้ง 2 ชนิดนี้ยังทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ซึ่งจะทำลายโปรตีนพันธุกรรมทำให้เกิดเนื้องอกผิวหนังได้ครับ แต่ไม่ต้องตกใจนะครับเพราะว่า... วันนี้ผมมีวิธีเลือกซื้อครีมกันแดดมาฝากกันครับ 1. SPF (Sun Protective Factor) ซึ่งเป็นตัวบอกว่า ป้องกัน UVB ได้กี่เท่าส่วน UVA ยังไม่มีค่ามาตรฐาน ปัจจุบันนิยมใช้ PA และเครื่องหมาย + ปกติคนไทยมีผิวคล้ำซึ่งเม็ดสีสามารถป้องกัน UVB ได้บ้างแล้ว ดังนั้น SPF มากกว่า 15 และ PA++ ขึ้นไป ก็เพียงพอ 2. ดูที่กิจกรรม ถ้าออกกำลังกลางแจ้ง มีเหงื่อ ว่ายน้ำ ทำงานกลางแดด ต้องใช้ SPF ที่สูงขึ้นและเลือกประเภทที่กันน้ำได้ (Water Proof หรือ Water Resistance) 3. ปริมาณ ควรใช้ปริมานที่ไม่น้อยเกินไป เพราะสารเคมีอาจทำปฏิกิริยากันทำให้ลดคุณภาพลงไป...

"แฮปปี้" ทำเก๋ขายซิมคู่ครีมกันแดด

     รายงานข่าวจากบมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเกชั่น (ดีแทค) เปิดเผยว่า แฮปปี้จากดีแทคได้ร่วมกับ ไมนัส-ซัน จากแพน ราชเทวี กรุ๊ปจับมือข้ามธุรกิจเป็นครั้งแรกโดยนำแพ็คเกจ"ซิมกันแดด SPF 29 สตางค์"มาผนวกคู่ผลิตภัณฑ์กันแดด"ไมนัส-ซันเฟเชียล ซัน SPF40"พร้อมวางจำหน่ายในร้านขายยาร้านวัตสัน ร้านบู๊ทส์ ทั่วประเทศ ระหว่งเดือนมีนาคม-เมษายนนี้ ชูปกป้องผิวสวย 2 ต่อจากแสงแดด และค่าโทรที่แผดเผา      นายพรชาย พิริยบรรเจิด กรรมการผู้จัดการ บมจ.แพน ราชเทวี กรุ๊ป กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่ไมนัส-ซันจับมือกับพันธมิตรในธุรกิจโทรคมนาคม ซึ่งนับเป็นโอกาสที่เป็นไปได้ยากแต่เนื่องจากช่วงนี้เป็นจังหวะที่แฮปปี้ได้ เปิดตัวซิมกันแดดที่มีแนวความคิดที่ตรงกับไมนัส-ซันได้เป็นอย่างดีและไม นัส-ซันก็เป็น ผลิตภัณฑ์กันแดด ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วประเทศ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีความสนใจในการเลือกผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีประสิทธิภาพ ผ่านร้านขายยา ร้านบู๊ทส์ และวัตสันทั่วประเทศ เราจึงได้ร่วมมือกันนำซิมกันแดดร่วมแคมเปญจำหน่ายพร้อมกับไมนัสซันในช่วง หน้าร้อนนี้      ด้า...

ครีมกันแดดสำหรับ "เด็ก" ใครคิดว่าไม่สำคัญ

โดย ตุลยย์      หลายคนคงคิดว่าการที่เด็กใช้ ครีมกันแดด เป็นเรื่องสิ้นเปลือง และยังกังวลว่าลูกหลานจะเกิดอาการแพ้ระคายเคืองเพราะผิวยังอ่อน รวมทั้งเด็กๆ ยังไม่มีปัญหาเรื่องฝ้า กระ โดยนพ.พรเลิศ ระบุไว้ในบทความว่า เท่าที่สังเกตอายุของผู้ที่เริ่มทาครีมกันแดดจะประมาณเกือบ 20 ปี เทียบแล้วคือวัยเข้ามหาวิทยาลัย      ที่จริงแล้วข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกหนังสือเตือนว่าทุกคนควรทาครีมกันแดด โดยเฉพาะกับเด็ก เนื่องจากรังสียูวีมีพลังงานสูง โดยแผ่มาจากดวงอาทิตย์ผ่านชั้นบรรยากาศโลก โอโซนในบรรยากาศจะกรองออกไปบางส่วน ที่เหลือก็มาถึงผิวโลก รังสียูวีมีผลเสียต่อร่างกายในหลายๆ ระบบ ดังนี้ - ผิวหนัง ทำให้ผิวไหม้เกรียม ฝ้า กระ แก่ก่อนวัย มะเร็งผิวหนัง - ตา รังสียูวีเร่งการเกิดต้อกระจก การโดนรังสียูวีมากไปจะทำให้เยื่อบุตาและกระจกตาอักเสบเกิดต้อเนื้อ - ระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง เกิดโรคติดเชื้อต่างๆ ง่ายขึ้น      การใช้สารเคมีหลายชนิดในปัจจุบันไปทำลายโอโซนในบรรยากาศให้ลดลงอย่าง รวดเร็ว โดยเฉพาะแถวซีกโลกใต้ ปริมาณโอโซนลดล...

การถูกแดดอย่างปลอดภัย

รูปภาพ
     ตามรายงานของ EPA (Environmental Protection Agency) ประเทศสหรัฐอเมริกา ในทศวรรษที่ 1980 นักวิทยาศาสตร์ได้รวบรวมหลักฐานพบว่า ชั้นโอโซนซึ่งป้องกันสิ่งมีชีวิตจากรังสีอัตราไวโอเลตเริ่มลดลงเนื่องจากการ ใช้สารเคมีบนโลก ตามประมาณการของหน่วยงาน The National Aeronautics and Administration ระบุว่าชั้นโอโซนเริ่มลดลงในอัตราร้อยละ 4-6 ในทุก 10 ปี ซึ่งหมายความว่ามีรังสีอัลตราไวโอเลตสู่พื้นโลกและสู่ร่างกายมนุษย์มากขึ้น ตามลำดับ อันตรายของรังสีอัลตราไวโอเลตในช่วงเวลา สั้นทำให้เกิดผิวเกรียมแดด และปวด ในช่วงเวลานานอาจทำให้เกิดฝ้า ผิวแก่ก่อนวัย ต้อกระจก ปัญหาตา มะเร็งผิวหนัง และระบบภูมิต้านทานของร่างกายลดลง ข้อแนะนำ 7 ขั้นตอนเพื่อการถูกแดดอย่างปลอดภัยโดยผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรต่าง ๆ จำนวนมาก ขั้นที่ 1 หลีกเลี่ยงแสงแดด      การหลีกเลี่ยงแสงแดดเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะช่วงเวลาระหว่า 10.00 - 15.00 น. ปริมาณรังสีอัลตราไวโอเลตมีความแตกต่างกัน ในแต่ละวัน ในแต่ละสภาพท้องถิ่น การออกจากที่ร่มจะทำให้ได้รับรังสีอัลตราไวโอเลตมาก กรณีท้องฟ้ามีเมฆปกคลุม เมฆสามารถข...