บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก พฤษภาคม, 2010

การถูกแดดอย่างปลอดภัย

รูปภาพ
     ตามรายงานของ EPA (Environmental Protection Agency) ประเทศสหรัฐอเมริกา ในทศวรรษที่ 1980 นักวิทยาศาสตร์ได้รวบรวมหลักฐานพบว่า ชั้นโอโซนซึ่งป้องกันสิ่งมีชีวิตจากรังสีอัตราไวโอเลตเริ่มลดลงเนื่องจากการ ใช้สารเคมีบนโลก ตามประมาณการของหน่วยงาน The National Aeronautics and Administration ระบุว่าชั้นโอโซนเริ่มลดลงในอัตราร้อยละ 4-6 ในทุก 10 ปี ซึ่งหมายความว่ามีรังสีอัลตราไวโอเลตสู่พื้นโลกและสู่ร่างกายมนุษย์มากขึ้น ตามลำดับ อันตรายของรังสีอัลตราไวโอเลตในช่วงเวลา สั้นทำให้เกิดผิวเกรียมแดด และปวด ในช่วงเวลานานอาจทำให้เกิดฝ้า ผิวแก่ก่อนวัย ต้อกระจก ปัญหาตา มะเร็งผิวหนัง และระบบภูมิต้านทานของร่างกายลดลง ข้อแนะนำ 7 ขั้นตอนเพื่อการถูกแดดอย่างปลอดภัยโดยผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรต่าง ๆ จำนวนมาก ขั้นที่ 1 หลีกเลี่ยงแสงแดด      การหลีกเลี่ยงแสงแดดเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะช่วงเวลาระหว่า 10.00 - 15.00 น. ปริมาณรังสีอัลตราไวโอเลตมีความแตกต่างกัน ในแต่ละวัน ในแต่ละสภาพท้องถิ่น การออกจากที่ร่มจะทำให้ได้รับรังสีอัลตราไวโอเลตมาก กรณีท้องฟ้ามีเมฆปกคลุม เมฆสามารถขัดขวางรังสีอัลตราไวโอเลต ได้เพียงร้อยละ

ใช้ครีมกันแดดอย่างไรให้เหมาะ

รูปภาพ
     ถึงแม้แสงแดดจะมีคุณประโยชน์ที่หลากหลายต่อมนุษย์ แต่การได้รับแสงแดดในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจทำให้ผิวไหม้แดง      เกิดฝ้า กระ และทำให้ผิวดูแก่กว่าวัย ไปจนถึงอาจเกิดโรคร้ายแรงอย่างมะเร็งผิวหนัง การปกป้องแสงแดดจึงเป็นเรื่องจำเป็น และการใช้ครีมกันแดดก็เป็นทางเลือกยอดนิยมอย่างหนึ่ง หากก็ต้องเลือกและใช้ให้เหมาะสม เพื่อที่จะได้ประสิทธิภาพในการกันแดดอย่างเพียงพอ      ครีมกันแดด โดยทั่วไปมักจะบ่งบอกถึง SPF หรือ ประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดชนิด UVB แต่ที่ควรใส่ใจไม่แพ้กันก็คือค่าการปกป้องรังสี UVA ซึ่งมักจะบ่งบอกไว้ด้วยคำว่า PA หรือ PPD นอกจากนี้ ครีมกันแดดที่ดีควรมี Photostability หรือความคงทนต่อแสงของครีมกันแดด ซึ่งครีมกันแดดที่ไม่คงทนต่อแสงหรือสลายไปมากกว่า 25% หลังถูกแสงยูวี จะทำให้ประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดลดน้อยลง      อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมแล้ว แต่ถ้าใช้อย่างไม่ถูกต้อง ประสิทธิภาพของครีมกันแดดก็จะลดน้อยลง อย่างเช่น การทาครีมกันแดดนั้น หากจะให้ได้ประสิทธิภาพตามที่กำหนด ก็ต้องใช้ปริมาณครีมราวหนึ่งช้อนชาต้อหนึ่งตารางเซนติเมตร หรือราวสองข้อนิ้วมือสำหรั

ใช้ครีมกันแดดแค่ไหน ถึงจะเพียงพอ

รูปภาพ
     เรื่อง ครีมกันแดด เป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับสาว ๆ เพราะเดี๋ยวนี้แดดร้อนแรงเหลือเกิน หากไม่ปกป้องให้ดีผิวหน้าก็คงหมองคล้ำ หมดราศีแน่นอนนะคะ แต่ต้องทาครีมประมาณไหนล่ะค่ะถึงจะปกป้องแสงแดดได้ดีที่สุด เคยสงสัยกันบ้างรึเปล่า ถ้าหากยังไม่รู้วันนี้มีคำตอบเรื่องนี้มาเฉลยให้ฟังค่ะ คำตอบก็คือ 1 ช้อนชาค่ะ เป็นปริมาณที่ดีที่สุด แต่ถ้าครีมกันแดดแบบไหนที่ความเข้มข้นมาก ก็สมารถลดปริมาณลงได้ตามสมควร แล้วทาบาง ๆ ให้ทั่วใบหน้า และควรทาซ้ำทุก ๆ 3 ชั่วโมง เพราะระหว่างวันฝุ่น และเหงื่อจะทำให้ประสิทธิภาพในการปกป้องลดลงได้ ที่สำคัญครีมกันแดดมีอายุการใช้งานแค่ 1 ปี นะคะ ไม่ว่าจะถูกหรือแพง พอครบปีก็ควรจะเปลี่ยนได้แล้วค่ะ ที่มาบทความจาก : Woman's Story

เคล็ดลับเลือกครีมกันแดดไม่ให้แก่แดด

รูปภาพ
     ใ นช่วงฤดูหนาวนี้ นอกจากอากาศหนาวเย็นจะเป็นศัตรูทำร้ายผิวให้แห้งแล้ว “แสงแดด” ก็ถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีส่วนร่วมในการทำอันตรายผิวให้เสีย เพราะปริมาณรังสีของแสงแดดในฤดูหนาวจะมีความเข้มข้นสูง ทำให้ผิวได้รังสีจากดวงอาทิตย์ในปริมาณที่มากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะฉะนั้นการปกป้องผิวด้วยการใช้ครีมกันแดด จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งครีมกันแดดเป็นเครื่องสำอางที่ใครๆ ก็สามารถซื้อหามาใช้ได้เอง หากแต่ถ้าจะมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับแสงแดด ก็จะช่วยเลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับผิวและกิจกรรมของผู้ใช้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด      แสงแดดที่ตกมาถึงโลกของเราจะมีรังสีแสงแดด ซึ่งมีความยาวคลื่น ตั้งแต่ 290-760 นาโนเมตร โดยแบ่งช่วงคลื่นเป็น 3 ช่วงใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ ช่วงคลื่นระหว่าง 290-320 ที่เรียกกันว่า รังสี UVB หรือ รังสีอัลตราไวโอเลต (UV), ช่วงคลื่นระหว่าง 320 - 400 นาโนเมตร เรียก UVA และช่วงคลื่นระหว่าง 400 - 760 นาโนเมตร ซึ่งเป็นรังสีที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า (Visible Radiation) รังสีจากแสงแดดเหล่านี้ สามารถก่อให้เกิดปฏิกิริยาทาง เคมี และ/หรือ ฟิสิกส์กับสารเคมีในผิวหนัง ซึ่งทั้งรังสีแสง UVA แ

เทคนิคการใช้ครีมกันแดดที่ถูกต้อง หมอแนะดูแลผิวพรรณอย่างถูกวิธี

 เจ้าแม่ความงามตัวจริง...นันท วัลย์ เหล่าสินชัย และอัมพรพิมพ์ วัชราภัย.      เพื่อตอบคำถามทุก ปัญหาที่เกี่ยวกับผิวหน้า ซึ่งสร้างความกังวลใจให้ผู้หญิงจำนวนมาก เครื่องสำอาง คลีนิกข์ ภายใต้การนำของ "นันทวัลย์ เหล่าสินชัย" ได้เชื้อเชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังชื่อดังของเมืองไทย มาให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลผิวพรรณอย่างถูกวิธี ในหัวข้อ "Dermatological Solutions for Every Concern" ณ ห้องประชุมเรณู โคตรจรัส ชั้น 6 สถาบันโรคผิวหนัง      นำโดย "นพ.จิโรจ สินธวานนท์" ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง บรรยายเรื่องผิวที่หมองคล้ำ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่สำหรับผู้หญิงไทย คุณหมออธิบายว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผิวหมองคล้ำและหยาบกร้านเกิดจากการตกค้างของเซลล์ผิว เสื่อมสภาพ การได้รับรังสียูวีติดต่อกันเป็นเวลานาน และพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่ถูกต้อง เช่น สูบบุหรี่จัด พักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด ออกแดดเป็นประจำ ขาดโภชนาการที่ดี และการดูแลผิวอย่างผิดวิธี      ถ้าอยากมีผิวใสไม่หมองคล้ำ คุณหมอแนะนำว่า ควรเริ่มทา ครีมกันแดด ตั้งแต่อายุ 25 ปี เพราะเป็นวัยที่เอจจิ้งโพรเซสเริ่

รีวิว ครีมกันแดด "Sunscreen Review"

รูปภาพ
Minus Facial Sun protection SPF40 ราคาประมาณ 170 บาท      เป็นครีมกันแดดที่ราคาถูก กันแดดและกันน้ำด้วย ได้ดีพอควรนะ ทาแล้วเหมือนทารองพื้นไว้ คุมมันได้ดีมาก ใช้กันแดดแล้วหน้าไม่มัน ไม่เหนียวเนอะหนะ ซึมซาบผิวได้ดี เนื้อครีมบางเบา ป้องกันแดดได้ดี แต่อาจจะล้างออกค่อนข้างยาก ครีมกันแดด Lancaster Precious Sun Global Protection Cellular Support      Lancaster - Precious Sun - Global Protection Cellular Support SPF30 , 50ml ครีม กันแดดที่สามารถปกป้องผิวจากแสงแดด พร้อมการบำรุงไปด้วยในตัว ช่วยให้ปกป้องและฟื้นฟู DNA ได้ถึงในกลางเซลล์ผิว ด้วย DNA Technology แบบเดียวกับ ใน 365 Cellular Elixir เหมาะสำหรับใช้เป็น ประจำทุกวัน และแม้ในวันทีรีบเร่ง ก็สามารถใช้เพียวตัวเดียวหลังจากทำความสะอาดผิวหน้า   ครีมกันแดด ชิเชโด้ Shiseido Anessa Perfect Pearly Sunscreen      Shiseido - Anessa Perfect Pearly Sunscreen SPF50+ PA+++ 60ml ผลิตภัณฑ์ปกป้องแสงแดด ที่ให้การปกป้องรังสี uv ทั้งภายในและภายนอก ป้องกันผิวไม่ให้หมองคล้ำ หรือ เป็นรอยแดง หลังถูกแดด ให้การปกป้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยาวนานกว่า

วิธีเลือกครีมกันแดด ปกป้องผิวพ้นภัยจากแสงแดดหน้าร้อน

รูปภาพ
     แ สงแดดหน้าร้อนในบ้านเราเป็นที่ทราบกันดีว่า...แรง!! เรียกได้ว่าใครที่อยู่ใต้ฟ้าเมืองไทยในช่วงอากาศร้อนๆ เช่นนี้ได้ถือว่าอึดกันเลยทีเดียว แต่กิจกรรมหนึ่งที่พลาดไม่ได้ในช่วงนี้คือการไปพักผ่อนเล่นน้ำทะเล ออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง ซึ่งหลายคนมักจะนึกถึง ครีมกันแดด เป็นตัวช่วยปกป้องผิวพรรณ แต่ก็ยังสับสนว่าจะเลือกใช้ครีมกันแดดอย่างไรที่มีประสิทธิภาพปกป้องผิวได้ ดี เพราะครีมกันแดดตามท้องตลาดมีหลายชนิด และอ้างถึงสรรพคุณต่างๆ มากมาย      พญ.ดวงกมล ทัศนพงศากุล อายุรแพทย์เฉพาะทางโรคผิวหนัง โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวถึงปัญหาจากแสงแดดที่พบได้บ่อยๆ ว่า มักพบอาการผิวโดนแดดเผาไหม้ เกิดริ้วรอย ฝ้า กระ รวมถึงอาการแพ้ต่างๆ ด้วย สาเหตุที่ทำให้ผิวถูกทำร้ายจากแสงแดด ในแสงแดดมีรังสีอัลตราไวโอเลต ซึ่งรังสีนี้จะไปทำลายคอลลาเจน และอีลาสตินในชั้นหนังแท้ ทำให้เกิดริ้วรอยต่างๆ ดังนั้น ควรทาครีมกันแดดทุกวัน และควรทาครีมกันแดดก่อนออกแดดอย่างน้อย 30 นาที การทาครีมกันแดดที่ได้ผลดีควรทาให้เพียงพอ ไม่บางหรือหนาจนเกินไป แต่หากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยเฉพาะในช่วงเวลา 10.00 น - 16.00 น.      การเลือกใช้คร

PA+ / PA++ / PA+++ คืออะไร

บอกระดับการป้องกัน UVA ซึ่งมีอยู่ 3 ระดับ      PA+ สามารถกันยูวีเอได้บางส่วน ส่วนมากจะกันได้ช่วง 320-340 นาโนมิเตอร์ เท่านั้น      PA++ สามารถกันยูวีเอได้เกือบครบทั้ง 400 นาโนมิเตอร์      PA+++ สามารถกันยูวีเอได้ครบถึง 400 นาโนมิเตอร์      ซึ่งจริงๆแล้ว PA+ ก็เพียงพอในการทำกิจกรรมเกือบทุกประเภท แต่ถ้าต้องอยู่กลางแดดนานให้เลือก PA++ หรือสูงกว่า อ้างอิงที่มา : women.mthai.com

SPF คืออะไร

รูปภาพ
     SPF ย่อมาจาก Sun Protecting Factor หรือเรียกง่ายๆ ว่า ค่าป้องกันแสงแดด โดยถ้าเราเคยตากแดดแล้วผิวไหม้ใน 15 นาที แต่ถ้าทาครีมที่มี SPF6 ผิวก็จะไหม้ในเวลา 6 เท่าคือ 90 นาที ถ้า SPF8 ก็จะกลายเป็น 120 นาที หรือ 2 ชั่วโมง      ยังมีหลายๆ คนเข้าใจผิดว่าการใช้ค่า SPF สูงๆ จะสามารถป้องกันแสงแดดได้มากขึ้น แต่จริงๆ แล้ว มันไม่ได้แปรผันตามค่า SPF ที่สูงขึ้นเลย โดยครีมกันแดดที่มีค่า SPF15 นั้น สามารถป้องกันรังสียูวีบีได้ 93.3% ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับค่า SPF30 จะป้องกันได้เพียง 96.7% เท่านั้น      ดังนั้น ค่า SPF ที่สูงมาขึ้น ก็ไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันเท่าไหร่ แถมสิ่งที่ตามมาก็คือราคาและความเหนียวเหนอะหนะเพิ่มมากขึ้น หากไม่จำเป็นก็ใช้ SPF ที่พอเหมาะ เพื่อให้ผิวหนังของเราต้องแบกรับภาระของสารเคมีที่มากเกินไป อ้างอิงที่มา : Forward Mail ที่มารูปภาพ : www.kabanaskincare.com

UVA UVB และ UVC คืออะไร

รูปภาพ
     UVA เป็นรังสีคลื่นยาว ซึ่งความยาวคลื่น 320 - 400 nm คลื่นรังสีนี้สามารถทะลุทะลวงผ่านเข้าชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้ได้ สามารถเข้าไปทำลายโครงสร้าง สร้างความเสื่อมโทรมให้กับคอลลาเจนและอิลาสตินเจน หมดความยืดหยุ่น ก่อให้เกิดความเหี่ยวย่นของผิวหนัง แต่ไม่ทำให้เกิดการอับเสบของผิวหนัง      UVB เป็นรังสีคลื่นสั้น ช่วงความยาวคลื่น 290 - 320 nm เมื่อผ่านเข้ามาสัมผัสร่างกาย จะผ่านชั้นหนังกำพร้าแล้วหนังแท้ด้านบนเข้าไปได้เท่านั้น ไม่สามารถเข้าลึกกว่านั้นได้ แต่รังสี UVB นั้นมีอยู่มาก และเป็นสาเหตุของการเกิดผิวไหม้อับเสบ      UVC เป็นรังสีคลื่นสั้น ช่วงความยาวคลื่น 200 – 290 nm แสงช่วงนี้ส่วนใหญ่จะถูกดูดซับโดนก๊าซโอโซนในชั้นบรรยากาศ ส่งผลให้ร่างกายไม่ได้รับผลกระทบในรังสีชนิดนี้ แต่หากในอนาคต ชั้นบรรยากาศไม่สามารถดูดซับได้หมด รังสี UVC ก็จะเป็นอีกหนึ่งรังสี ที่เราจะหาทางรับมือป้องกันมัน อ้างอิงที่มา : Forward Mail อ้างอิงรูปภาพ : www.homesolariums.com